top of page

STORY BY ME

          โบถส์หรือสถานที่ที่ฉันเรียนไวโอลินนั้นตั้งอยู่ในชุมชนคลองเตย ซึ่งที่นี่เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองของฉันก็ว่าได้ อาจารย์ที่สอนฉันท่านไม่เก็บค่าเล่าเรียนและท่านยังช่วยสนับสนุนเด็กในชุมชนให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์โดยสภาพแวดล้อมในสังคมมีสิ่งยั่วยุมากมายที่ทำให้เด็กหลงทางได้ เด็กบางคนขาดความเอาใจใส่จากผู้ปกครอง เด็กบางคนเห็นแบบอย่างที่ไม่ดีซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นแบบอย่างในอนาคต ซึ่งที่โบถส์เป็นสถานที่ที่รวมเด็กๆในชุมชนไว้และดนตรีเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราได้มาเจอกัน พัฒนาจนสามารถเล่นเพลงด้วยกันได้ มันเป็นความรู้สึกที่สนุก มีความสุข ที่เราได้เล่นดนตรีด้วยกันในโบสถ์อาจารย์ทำให้เด็กๆได้มีโอกาสไปแสดงดนตรี ไปร่วมเล่นดนตรีในที่ต่างๆ ได้มีโอกาสไปทานอาหารที่ร้านสวยๆ ซึ่งล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เกิดขึ้นกระทั่งจนทุกวันนี้โบถส์แห่งนี้ซึ่งเป็นที่สอนดนตรี ได้กลายเป็นมูลนิธิดนตรีเพื่อชีวิต กว่าจะเป็นมูลนิธิได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มีหลายคำถามจากหลายๆคนที่สงสัยว่าเราจัดการบริหารอย่างไร เพราะเครื่องดนตรีเป็นเครื่องราคาแพง ไหนจะค่าอุปกรณ์ต่างๆ แต่ที่นี่ฟรีทุกอย่าง ไหนจะการสอน น้องๆในชุมชนที่มาเรียนมีจำนวนมากขึ้น น้องๆได้อะไรจากสิ่งที่ทำอยู่และคำถามมากมาย ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักและเริ่มต้นจากการให้จนทุกวันนี้เด็กๆในชุมชนได้รับโอกาสและประสบการณ์ความรู้มากมาย และพวกเขาก็รู้จักที่จะแบ่งปันและมอบสิ่งที่เคยได้รับให้กับรุ่นน้องต่อไปในอนาคต 
bottom of page